
นับตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี่ ก้าวเข้ามาสู่ศูนย์ฝึกฟุตบอล “ลา มาเซีย” ของบาร์เซโลน่า กระทั่งเติบโตกลายมาเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก กวาดรางวัลส่วนตัวไปอย่างมากมาย แฟนบอลลาลีกาต่างยกย่องให้เขาเป็น “เทพเจ้าลูกหนัง”
วันที่ 16 ตุลาคม 2004 บาร์เซโลน่า มีโปรแกรมออกไปเยือนเอสปันญ่อล ในศึก “เอล ดาร์บี้” หรือดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นคาตาลัน ซึ่งในแมตช์ดังกล่าว เดโก้ มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีส ยิงประตูขึ้นนำให้ผู้มาเยือนตั้งแต่นาทีที่ 9 และเป็นประตูเดียวในเกมนี้ จนกระทั่งเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 82 เดโก้ ถูกเปลี่ยนตัวออก เมสซี่ ในวัย 17 ปี 3 เดือน ได้รับโอกาสลงสนามเป็นแมตช์แรก สร้างสถิติเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยสุดลำดับที่ 3 ที่ลงสนามนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่า
ถึงแม้เกมพบกับเอสปันญ่อล จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 8 นาที แต่เรื่องราวหลังจากนั้นคือประวัติศาสตร์ ด้วยการพาสโมสรบาร์เซโลน่าประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วน อีกทั้งคว้ารางวัลส่วนตัว และทำลายสถิติต่างๆ อีกมากมาย
ผลงานในสนามสุดยอดเหนือคำบรรยาย มูลค่านอกสนามก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เมสซี่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักฟุตบอลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก ประจำปี 2020 ด้วยรายรับทั้งสิ้น 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กว่าจะมาเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากต้องมีพรสวรรค์แล้ว ยังต้องมีพรแสวง คือออกไปหาโอกาสด้วยตัวเอง อีกทั้งมีคนรอบข้างที่เชื่อมั่น และคอยผลักดันให้ไปได้ไกลที่สุด
ตราบใดที่ ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงเล่นให้กับบาร์เซโลน่า แฟนบอลลาลีกา ก็ยังคงได้เห็นภาพการฉลองประตู ด้วยการชี้นิ้วขึ้นฟ้าต่อไป เพื่อระลึกถึงคุณยายของเขาที่จุดประกายความฝันให้มาเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบันนี้